ว่าด้วยสุนทรียสนทนา on dialogue by David Bohm เดวิด โบห์ม เพชรรัตน์ พงษ์เจริญสุข แปล พจนา จันทรสันติ บรรณาธิการ

ว่าด้วยสุนทรียสนทนา  on dialogue  by David Bohm  เดวิด โบห์ม  เพชรรัตน์ พงษ์เจริญสุข แปล พจนา จันทรสันติ บรรณาธิการ สำนักพิมพ์ สวนเงินมีมา พิมพ์ครั้งที่ ๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๗มี  ๑๙๒ หน้า

9786164810075

นับเป็นงานปรัชญาคลาสสิกเพื่อการนำไปปฏิบัติ แม้บางตอนของหนังสือจะหนักด้วยสาระทางปรัชญา
ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของโลก เราไม่รู้ว่าเราจะอยู่ร่วมกันได้อย่างไร เรารู้แต่เพียงว่าเราอยู่ได้ด้วยความจริงจากอดีต ซึ่งคนกลุ่มหนึ่งในปัจจุบันกำลังพยายามเอาความจริงของตัวเองนี้ไปครอบใส่ความจริงของคนอีกกลุ่มหนึ่ง เรามองเห็นสิ่งนี้ได้ง่ายในคนอื่น อาทิ "ผู้ก่อการร้าย" ที่บ้าคลั่ง หรือพวกหัวรุนแรงสุดขั้วที่มีเป้าหมายเพื่อล้มล้างสังคมประชาธิปไตยในปัจจุบัน แต่สิ่งนี้จะแตกต่างจาก "พวกประชาธิปไตยหัวรุนแรง" อย่างไร เมื่อพวกเขาพยายามบอกว่า ความจริงของตัวเองเป็นวิธีการที่ดีที่สุดของการดำรงชีวิต? โบห์ตระหนักว่า การพยายามปกป้องความเชื่อหลักๆ ที่ทำให้เกิดความไม่กลมกลืนนั้น กำลังเป็นปัญหาเรื้อรังในโลกปัจจุบัน...

    หนังสือ "ว่าด้วยสุนทรียสนทนา" เล่มนี้" เป็นงานปรัชญาคลาสสิกเพื่อการนำไปปฏิบัติ แม้บางตอนของหนังสือจะหนักด้วยสาระทางปรัชญา สาระสำคัญภายในเล่มคือการช่วยให้เราหันกลับมาพินิจพิเคราะห์สภาวะจิตใจ และฝึกที่จะฟังเสียงด้านในของตัวเองอย่างลึกซึ้งมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยเชื่อมโยงสู่สังคมในการทำความเข้าใจผู้อื่น นับเป็นเครื่องมือหนึ่งที่สามารถนำมาคลี่คลายปัญหาปัจจุบันของโลก เพราะเมื่อมนุษย์สามารถเรียนรู้ใจตนเองได้อย่างถ่องแท้ ก็จะมีศักยภาพเข้าใจผู้อื่นได้

1. ว่าด้วยการสื่อสาร
2. ว่าด้วยสุนทรียสนทนา
3. ธรรมชาติของความคิดร่วม
4. ปัญหาและปฏิทรรศน์
5. ผู้สังเกตและสิ่งที่ถูกสังเกต
6. การระงับยับยั้ง ร่างกายและการตระหนักรู้ในตนเอง
7. ความคิดแบบมีส่วนร่วมและความไร้ขอบเขต

สาระสำคัญของหนังสือเล่มนี้คือการช่วยให้เราหันกลับมาพินิจพิเคราะห์สภาวะจิตใจ และฝึกที่จะฟังเสียงด้านในของตัวเองอย่างลึกซึ้งมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยเชื่อมโยงสู่สังคมในการทำความเข้าใจผู้อื่น สุนทรียสนทนานับเป็นเครื่องมือหนึ่งที่สามารถนำมาคลี่คลายปัญหาปัจจุบันของโลก เพราะเมื่อมนุษย์สามารถเรียนรู้ใจตนเองได้อย่างถ่องแท้ ก็จะมีศักยภาพเข้าใจผู้อื่นได้