จำนวนชิ้น | ส่วนลดต่อชิ้น | ราคาสุทธิต่อชิ้น |
{{(typeof focus_pdata.price_list[idx+1] == 'undefined')?('≥ '+price_row.min_quantity):((price_row.min_quantity < (focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1))?(price_row.min_quantity+' - '+(focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1)):price_row.min_quantity)}} | {{number_format(((focus_pdata.price_old === null)?focus_pdata.price:focus_pdata.price_old) - price_row.price,2)}} บาท | {{number_format(price_row.price,2)}} บาท |
คงเหลือ | ชิ้น |
จำนวน (ชิ้น) |
- +
|
ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า คุณมีสินค้าชิ้นนี้ในตะกร้า 0 ชิ้น
|
|
|
|
คุยกับร้านค้า | |
{{ size_chart_name }} |
|
หมวดหมู่ | รัฐศาสตร์ และ การเมือง |
สภาพ | สินค้าใหม่ |
เพิ่มเติม | |
สภาพ | สินค้ามือสอง |
เกรด | |
สถานะสินค้า | |
ระยะเวลาจัดเตรียมสินค้า | |
เข้าร่วมโปรโมชั่น | |
ข้อมูล |
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
|
รายละเอียดสินค้า |
กฎหมายย่อมเป็นกฎหมาย : ว่าด้วยสำนักกฎหมายบ้านเมืองสมัยใหม่ ศศิภา พฤกษฎาจันทร์ สำนักพิมพ์ illuminations Editions พิมพ์ครั้งที่ ๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๔ มี ๒๕๓ หน้า ISBN970668215333
“งานเขียนเรื่องนี้พูดถึงแนวความคิดทางกฎหมายของนักคิดในสำนักกฎหมายบ้านเมืองในศตวรรษที่ยี่สิบสองคนที่มีชื่อเสียงเลื่องระบือคือ ฮันส์ เคลเซ่น และ เอซ. แอล. เอ. ฮาร์ท ศศิภาสามารถถ่ายทอดแนวความคิดของนักคิดทั้งสองออกมาได้น่าสนใจและชวนติดตามและทำให้ผู้อ่านชาวไทยเห็นทัศนะของนักคิดในสำนักกฎหมายบ้านเมืองหลังจากยุคของจอห์น ออสติน ได้ชัดเจนขึ้น ที่สำคัญก็คืองานเขียนเรื่องนี้น่าจะช่วยทำให้ผู้อ่านเห็นภาพของสำนักกฎหมายบ้านเมืองว่าโดยเนื้อแท้แล้วสำนักความคิดนี้ไม่ใช่สำนักความคิดฝ่ายอธรรม ดังเช่นที่ผู้เขียนคำนำเสนอใช้ความพยายามตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาชี้ให้นักศึกษาเห็นประเด็นสำคัญประเด็นนี้ เพราะในที่สุดแล้ว ทัศนะทางนิติปรัชญาแต่ละทัศนะก็ล้วนแล้วแต่พยายามที่จะให้คำตอบว่ากฎหมายคืออะไรจากการอภิปรายโต้แย้งกันในทางวิชาการทั้งสิ้น และผู้ศึกษาก็ควรจะศึกษาความคิดของนักคิดแต่ละคนอย่างปราศจากอคติ เพื่อในที่สุดแล้วจะได้มีทัศนะที่รอบด้านและหนักแน่นเป็นของตนเองได้” -วรเจตน์ ภาคีรัตน์ สารบัญ 1 ประเทศไทยของเรานั้นมีความประหลาดอยู่อย่างหนึ่ง กล่าวคือโดยปกตินั้น ความจำเป็นหรือข้อเรียกร้องในการอ้างถึงคุณค่านอกระบบกฎหมายมักจะเกิดขึ้นในสถานการณ์ที่รัฐอยู่ในภาวะไม่เป็นนิติรัฐ หรือเป็นรัฐที่อยุติธรรม มีการละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนอย่างร้ายแรง กลับกันในรัฐที่เป็นนิติรัฐ การยึดถือกฎหมายบ้านเมืองเป็นเรื่องที่สำคัญและจำเป็นมากกว่า การเรียกร้องคุณค่านอกระบบกฎหมายในกรณีหลังจึงเกิดขึ้นได้ยาก กล่าวอย่างง่ายๆ ก็คือ ในรัฐที่ อยุติธรรม คุณค่าด้านความยุติธรรมควรจะเป็นฝ่ายนำสังคม ส่วนในรัฐที่เป็นนิติรัฐ คุณค่าด้านความมั่นคงแน่นอนแห่งระบบกฎหมายควรจะเป็นฝ่ายนำ แต่จากการสังเกตของผู้เขียนสถานการณ์ในประเทศไทยนั้นมักจะกลับกัน คือในระบบปกติเรามักจะอ้างคุณค่านอกระบบมาเพื่อสร้างความชอบธรรมในการโค่นล้มระบบ แต่ในระบบที่ไม่ปกติเรากลับยึดมั่นในกฎหมายที่บัญญัติไว้อย่างหนักแน่น 2 ความสัมพันธ์ระหว่างกฎหมายและศีลธรรม โดยเฉพาะความยุติธรรม เป็นปัญหารากฐานที่สำคัญทางนิติปรัชญามาโดยตลอด แต่จนปัจจุบันก็ยังไม่มีใครสามารถให้คำตอบได้อย่างสมบูรณ์ เมื่อพยายามที่จะแยกระหว่างสองสิ่งนี้ออกจากกันตามแนวความคิดแบบสำนักกฎหมายบ้านเมือง เราก็จะพบความจริงที่วั้งสองสิ่งนี้ไม่สามารถแยกออกจากกันได้อย่างเด็ดขาดในเชิงประจักษ์ซึ่งเราสามารถสังเกตได้ และย่อมถูกตั้งคำถามต่อจุดยืนหรือวิธีการจัดการกับกฎเกณฑ์ที่มีเนื้อหาที่ขัดกับสามัญสำนึกอย่างร้ายแรง แต่หากเราปฏิเสธที่จะแยกระหว่างสองสิ่งนี้ออกจากกันตามแนวคิดที่ไม่ใช่สำนักกฎหมายบ้านเมือง เราก็จะเผชิญกับความกำกวมและความไม่แน่นอนของกฎหมาย เนื่องจากศีลธรรมเป็นเรื่องของคุณค่าที่อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามสังคมและยุคสมัยได้ ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เงื่อนไขอื่นๆ |
|
Tags |