จำนวนชิ้น | ส่วนลดต่อชิ้น | ราคาสุทธิต่อชิ้น |
{{(typeof focus_pdata.price_list[idx+1] == 'undefined')?('≥ '+price_row.min_quantity):((price_row.min_quantity < (focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1))?(price_row.min_quantity+' - '+(focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1)):price_row.min_quantity)}} | {{number_format(((focus_pdata.price_old === null)?focus_pdata.price:focus_pdata.price_old) - price_row.price,2)}} บาท | {{number_format(price_row.price,2)}} บาท |
คงเหลือ | ชิ้น |
จำนวน (ชิ้น) |
- +
|
ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า คุณมีสินค้าชิ้นนี้ในตะกร้า 0 ชิ้น
|
|
|
|
คุยกับร้านค้า | |
{{ size_chart_name }} |
|
หมวดหมู่ | ประวัติศาสตร์ไทย และ โบราณคดี |
สภาพ | สินค้าใหม่ |
เพิ่มเติม | |
สภาพ | สินค้ามือสอง |
เกรด | |
สถานะสินค้า | |
ระยะเวลาจัดเตรียมสินค้า | |
เข้าร่วมโปรโมชั่น | |
ข้อมูล |
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
|
รายละเอียดสินค้า |
ทุ่งกุลา อาณาจักรเกลือ ๒๕๐๐ ปี จาก ยุคแรกเริ่มล้าหลัง ถึง ยุคมั่งคั่งข้าวหอม สุจิตต์ วงษ์เทศ บรรณาธิการ สำนักพิมพ์ ศิลปวัฒนธรรม พิมพ์ครั้งแรก มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๗ มี ๔๕๐ หน้า
แหล่งเกลือเก่าแก่ที่สุดในประเทศไทยและอาจรวมทั้งสุวรรณภูมิ อยู่บริเวณทุ่งกุลาร้องไห้ในอีสาน เขต 5 จังหวัด คือ ร้อยเอ็ด, มหาสารคาม, สุรินทร์, ยโสธร, ศรีสะเกษ แหล่งเกลือทุ่งกุลาฯมีผู้หุงต้มมาใช้กินเมื่อราว 2,500 ปีมาแล้ว หลังจากนั้นขยายขอบเขตทำต่อเนื่องมาจนกลายเป็น "อาณาจักรเกลือ" กว้างใหญ่ไพศาลที่สุดในอุษาคเนย์ ผมเคยรวบรวมเรื่องราวความรู้เกี่ยวกับเกลือทุ่งกุลาไว้ในหนังสือชื่อ ทุ่งกุลา "อาณาจักรเกลือ" 2,500 ปี สำนักพิมพ์มติชน พิมพ์ครั้งแรกเมื่อ พ.ศ.2546 แล้วเขียนคำนำอธิบายไว้ย่อๆ ด้วย ดังนี้ "ทุ่งกุลา ยุคแรกเริ่มล้าหลัง มีคนตั้งหลักแหล่งเป็นชุมชนหมู่บ้านตั้งแต่ราว 3,000 ปีมาแล้ว (ถือเป็นรุ่นราวคราวเดียวกับ "บ้านเชียง" ในเขตอุดรธานี) ต่อมาอีก 500 ปี หรือราว 2,500 ปีมาแล้ว คนทุ่งกุลายุคแรกเริ่มมีมากขึ้น แล้วมีพัฒนาการทางวัฒนธรรมก้าวหน้า นอกจาก "เฮ็ดไฮ่-เฮ็ดนา" ตามแบบ "ทำมาหากิน" อย่างเศรษฐกิจพอเพียงเลี้ยงตนและครอบครัวแล้ว อาชีพสำคัญของคนกุลายุคแรกเริ่มเมื่อ 2,500 ปีมาแล้ว คือ ต้มเกลือ กับ ถลุงเหล็ก แหล่งเกลือสำคัญมากอยู่ที่บ่อพันขัน ในอำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด นอกนั้นมีแหล่งเกลือกระจัดกระจายเต็มทุ่งกุลา อยากเรียกให้ลั่นโลกว่าทุ่งกุลานี่แหละ คือ อาณาจักรเกลือ ยุคดึกดำบรรพ์แท้จริง แล้วยังทำสืบเนื่องมาถึงทุกวันนี้ด้วยเทคโนโลยีนับพันๆ ปีมาแล้ว ไม่เปลี่ยนแปลง หรือเปลี่ยนแปลงช้ามาก ถ้าพิจารณาจำนวนชุมชน แล้วคาดคะเนจำนวนประชากร จะพบว่าผลิตเกลือเกินความต้องการที่มนุษย์จะอุปโภคบริโภค ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าผลิตเกลือทำไมมากนัก? มีผู้อธิบายหลายแนวทาง แต่คำอธิบายที่น่าเชื่อ คือส่งเกลือไปขายและแลกเปลี่ยนกับชุมชนรอบๆ ทะเลสาบเขมรในยุคก่อนมีนครวัด-นครธม เพราะที่นั่นมีปลามหาศาล แต่ไม่มีเกลือพอจะถนอมอาหารได้ พูดง่ายๆ ว่าเอาเกลือจากทุ่งกุลา ไปทำปลาแดกที่ทะเลสาบเขมร เพราะวัฒนธรรมปลาแดก มีทั่วไปทั้งภูมิภาค โดยเฉพาะในกลุ่ม ลาว-ไทย-เขมร มาแต่ยุคดึกดำบรรพ์ ทุ่งกุลาทุกวันนี้ ยังมีสิ่งอัศจรรย์เกิดขึ้นอีก นั่นคือเป็นแหล่งผลิตข้าวหอมมะลิที่มีคุณภาพดีที่สุด บางทีเรียกกันว่าข้าวหอมทุ่งกุลา เพราะข้าวหอมมะลิ มีปลูกทั่วไปทั้งภาคอีสานและภาคอื่นๆ แต่ยอดเยี่ยมที่สุดและคนถามหาถามซื้อมากที่สุด คือ ข้าวหอมทุ่งกุลาเท่านั้น ถือเป็นยุคมั่งคั่งข้าวหอม ของทุ่งกุลาร้องไห้" เกลือทุ่งกุลาที่มีขอบเขตระดับ "อาณาจักร" ยาวนานนับพันๆ ปีมาแล้วนี้เอง สร้างความเค็มให้พื้นดินทุ่งกุลา แล้วส่งผลให้ปลูกข้าวหอมมีกลิ่นหอมมากกว่าบริเวณอื่นๆ ผมอ่านหนังสือประวัติศาสตร์โลกผ่านเกลือ แปลโดย เรืองชัย รักศรีอักษร แล้วตื่นเต้นโลดโผนมาก เพราะไม่เคยคิดและไม่เคยรู้มาก่อนว่าโลกตะวันตกมีเกลือสินเธาว์เหมือนทุ่งกุลา เป็นเรื่องสำคัญทางเศรษฐกิจการเมืองมานานมากพอๆ กับทุ่งกุลา ผมจึงคัดตัดตอนแล้วปรับปรุงที่สำคัญมาพิมพ์ในพื้นที่สุวรรณภูมิสังคมวัฒนธรรมพร้อมกันวันนี้ ขอเชื้อเชิญให้นักประวัติศาสตร์และนักโบราณคดี "เปิดกะลา" ออกไปทำวิจัยเรื่องเกลือในประวัติศาสตร์อุษาคเนย์และประวัติศาสตร์ไทยด้วย เพราะความเติบโตของรัฐต่างๆ ล้วนเกี่ยวข้องกับกินเกลือและค้าเกลือ จึงมี "ฉางเกลือ" อยู่ในเมืองทุกเมือง แม้กรุงธนบุรีก็มีฉางเกลืออยู่บริเวณโรงพยาบาลศิริราช-วังหลัง ทุกวันนี้ ![]() ![]() ![]() ![]() |
เงื่อนไขอื่นๆ |
|
Tags |