ซูสีไทเฮา ราชินีดอกกล้วยไม้ Empress Orchid

นวนิยายอิงประวัติศาสตร์ยุคสมัยพระนางซูสีไทเฮา เปิดเผยโลกลี้ลับภายในพระนครต้องห้าม ที่เต็มไปด้วยเรื่องของวิจิตรกามาและเรื่องของพิธีรีตอง ภายใต้ใบหน้าที่แสนจะใสวิสุทธิ์นั้น ล้วนแล้วแต่แฝงไว้ด้วยเรื่องราวของความอาฆาตมาดร้ายเรื่องของไสยศาสตร์ เหล่าบรรดานางสนมนับพันนางจะทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะมีพระโอรสให้กับพระจักรพรรดิเพื่อจะได้ยกฐานะตัวเองขึ้นสู่ตำแหน่งฮองเฮา ด้วยความมุ่งมั่นที่จะไม่ให้ตัวเองต้องตกเป็นเหยื่อของความอิจฉาริษยา อีกทั้งการกระทำที่โสมม กล้วยไม้หรือพระนางซูสีไทเฮาจึงได้พยายามเรียนรู้ฝึกฝนตัวเองถึงวิธีที่จะปรนนิบัติมัดใจผู้ชายอย่างมีศิลป์ ใช้วิธีให้สินบนแก่ขันที เพื่อที่จะได้มีโอกาสเข้าถึงพระแท่นบรรทมขององค์พระจักรพรรดิ ใช้เสน่ย์ยั่วยวนพระจักรพรรดิให้หลงใหล โดยหารู้ไม่ว่าประเทศจีนจะต้องถึงกาลล่มสลายในสมัยของพระนาง และพระนางจะได้เป็นพระจักรพิรรดินีองค์สุดท้ายของแผ่นดินจีนนับว่าเป็นนวนิยายที่เต็มไปด้วยรายละเอียดของชีวิตในราชสำนักที่ไม่เคยปรากฏที่ใดมาก่อน การบรรยายที่มีความไพเราะในเชิงวรรณศิลป์ จากปลายปากกาของอันฉี หมิน ผู้แต่งนวนิยายที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายมาแล้วทั้งเรื่องมาดามเหมา และ อะเซเลียสีแดง
   
     Empress Orchid เป็นเรื่องราวของพระนางฯ ในช่วงวัยสาวก่อนที่จะเข้าเป็นสนมของจักรพรรดิเสียนเฟิง หนังสือเล่าเรื่องไล่เรียงตั้งแต่ความลำบากก่อนเข้าสู่พระราชวังต้องห้าม พิธีรีตองในการเข้าเป็นสนมของจักรพรรดิ ความยิ่งใหญ่ของพิธีกรรม สถานที่ และผู้คนที่อยู่ในนั้น การใช้ชีวิตและการแย่งชิงซึ่งอำนาจของเหล่าสนมและขันที ผู้แต่งเล่าเรื่องต่างๆ ผ่านมุมมองของพระนางฯ เรื่องหนึ่งที่ถูกแต่งแต้มให้นวนิยายอิงประวัติศาสตร์เรื่องนี้น่าติดตามมากขึ้นคือ "ความรัก" ของพระนางกับ "หย่งลู่" หัวหน้าทหารองครักษ์ ซึ่งสุดท้ายจะลงเอยอย่างไรคงต้องลองหาซื้อมาอ่านดูครับ เรื่องราวในหนังสือเล่มนี้ส่วนใหญ่เป็นเรื่องราวในประวัติศาสตร์ชาติจีน ชื่อตัวละครจะเป็นชื่อที่ปรากฎอยู่จริงในประวัติศาสตร์เช่นกันแต่เรื่องราวบางส่วนคงถูกปรุงแต่งมาเพื่ออรรถรสที่เผ็ดร้อนน่าติดตามมากขึ้นตามแบบของนวนิยาย
     
   The Last Empress เป็นเรื่องราวของพระนางฯ ต่อจาก Empress Orchid ซึ่งจบลงที่ตอนนำศพของจักรพรรดิเสียนเฟิงไปบรรจุที่สุสานของราชวงศ์ชิง The Last Empress เล่าเรื่องราวเมื่อพระนางต้องรับหน้าที่เป็นผู้สำเร็จราชการแทนจักรพรรดิถงจื้อซึ่งเป็นโอรสของพระนางและเป็นโอรสองค์เดียวของจักรพรรดิเสียนเฟิง เล่มนี้จะเล่าเรื่องความยุ่งยากของการบริหารราชการแผ่นดินในช่วงที่กระแสการล่าอาณานิคมของชาติตะวันตกที่มีต่อแผ่นดินจีน ซึ่งประเทศหนึ่งที่มีส่วนทำให้ความมั่นคงของประเทศจีนสั่นคลอนคือญี่ปุ่น ด้วยเหตุที่ญี่ปุ่นปรับตัวให้เข้ากับกระแสการเมืองโลกก่อนประเทศจีน และนี่อาจเป็นเหตุให้จีนกับญี่ปุ่นยังไม่อาจคบหากันได้อย่างสนิทใจนัก และเมื่อจักรพรรดิถงจื้อเสด็จสวรรคต จักรพรรดิองค์ถัดมาคือจักรพรรดิกวงซวี่ซึ่งครองราชย์ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์เช่นกันทำให้พระนางทรงต้องรับหน้าที่เป็นผู้สำเร็จราชการเช่นเดิม จักรพรรดิกวงซวี่เสด็จสวรรคตเมื่อ 14 พฤศจิกายน 2451 ก่อนที่พระนางจะสิ้นพระชนม์ในอีก 1 วันถัดมาด้วยวัย 73 พรรษา... อย่างไรก็ตามถึงแม้หนังสือเล่มนี้จะเล่าเรื่องที่เป็นปัญหาการเมืองการปกครองเสียส่วนใหญ่ แต่ก็ไม่ได้ทิ้ง "ความรัก" ของพระนางกับ "หย่งลู่" ไปเสียทีเดียวแต่ความรักของคนที่มีวุฒิภาวะสูงขึ้นก็จะไม่ร้อนแรงเหมือนเมื่อเกิดขึ้นใน Empress Orchid