อ้ายเหลือบ The Gadfyl by E.L. voynich ปริทัศน์ แปล

อ้ายเหลือบ  The Gadfyl by E.L. voynich ปริทัศน์ แปลคัดย่อ  สำนักพิมพ์กราฟิคอาร์ต พ.ศ.พ.ศ. ๒๕๑๙ มี  ๑๕๖ หน้า

The Gadfly อ้ายเหลือบ

ผลงานของ เอเธล ลิเลียน วอยนิช E.L.Voynich เป็นเรื่องราวตื่นเต้นเร้าใจหลายชั้นของการเปลี่ยนแปลงทางอุดมการณ์ ความรัก และความกล้าหาญเหนือคนทั่วไป เรื่องของ "อาร์เธอร์ เบอร์ตัน" และการเปลี่ยนผ่านจากหนุ่มน้อยละเอียดอ่อนไร้เดียงสา ไปสู่วีรบุรุษแห่งการปฏิวัติที่ตาสว่างและพูดจาโผงผาง ผู้ชายที่ผ่านวิกฤตความศรัทธาจนกลายเป็นอ้ายเหลือบที่เลื่องลือ "อ้ายเหลือบ" คือผู้ชายธรรมดาที่มีข้อบกพร่องและแฝงความอ่อนแอของมนุษย์เอาไว้ ทั้งยังมีความรักอย่างลับๆ และแบกรับความเจ็บปวดอันซับซ้อน แต่กระนั้นเขาก็มีชีวิตที่ยิ่งใหญ่ เป็นผู้ที่มีความอดทนเหนือมนุษย์ เป็นนักมนุษย์นิยมที่ไม่เชื่อถือในพระเจ้า เป็นปรปักษ์ที่ตรงไปตรงมากับสภาพการณ์ทางการเมือง และเป็นผู้สนับสนุนเสรีภาพของประชาชนถ้อยคำของเขาทิ่มแทงและทำลายศัตรูด้วยพลังแห่งความจริงที่อยู่ในเนื้อหาเรื่องราวได้เกิดขึ้นในอิตาลีระหว่างช่วงเวลาแห่งความวุ่นวายทางการเมืองในกลางศตวรรษที่สิบเก้า

วรรณกรรมที่ขับเคลื่อนและเป็นเบ้าหลอมวีรชน สร้างพลังปลุกเร้าให้นักต่อสู้ นักปฏิวัติ มาแล้วทั่วโลก จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกที่ประเทศฝ่ายทุนนิยมจะต่อต้านและห้ามเผยแพร่วรรณกรรมชิ้นนี้แก่ประชาชนทั่วไป แต่ขณะเดียวกันในกลุ่มประเทศที่เป็นฝ่ายสังคมนิยมอย่างสหภาพโซเวียต สาธารณรัฐประชาชนจีน และประเทศแถบยุโรปตะวันออกกลับเชิดชูยกย่องให้เป็นหนังสือที่มีคุณประโยชน์ทางด้านความคิดที่เยาวชนหัวก้าวหน้าต้องอ่าน "เบอร์แทรนด์ รัสเซลล์" นักปรัชญาที่มีชื่อเสียงของอังกฤษ เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรม ค.ศ.1950 ได้กล่าวถึงหนังสือเล่มนี้ว่า "เป็นนวนิยายที่ตื่นเต้นเร้าใจที่สุดที่ข้าพเจ้าเคยอ่านมา" ในสาธารณรัฐประชาชนจีนนวนิยายเรื่องนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากโดยเฉพาะตอนที่วอยนิชผู้ประพันธ์ได้ถึงแก่กรรมนั้นอ้ายเหลือบถูกขายไปแล้วประมาณ 2 ล้านกว่าเล่ม ส่วนในสหภาพโซเวียตก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน และถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนต์อีกด้วย

The Gadfly หรืออ้ายเหลือบ ผลงานของเอเธล ลิเลียน วอยนิช เป็นเรื่องราวตื่นเต้นเร้าใจหลายชั้นของการเปลี่ยนแปลงทางอุดมการณ์ความรักและความกล้าหาญเหนือคนทั่วไปที่ได้เปลี่ยน อาร์เธอร์ เบอร์ต้น หนุ่มน้อยละเอียดอ่อนที่ไร้เดียงสาไปสู่วีรบุรุษแห่งการปฏิวัติที่ตาสว่างและพูดจาโผงผาง ผู้ชายซึ่งผ่านวิกฤตความศรัทธาและกลายเป็นอ้ายเหลือบที่เลื่องลือ อ้ายเหลือบคือผู้ชายธรรมดาที่มีข้อบกพร่องและแฝงความอ่อนแอของมนุษย์เอาไว้ ทั้งยังมีความรักอย่างลับๆ และแบกรับความเจ็บปวดอันซับซ้อน แต่กระนั้นเขาก็มีชีวิตที่ยิ่งใหญ่ผู้ซึ่งมีความอดทนเหนือมนุษย์เป็นนักมนุษยนิยมที่ไม่เชื่อถือในพระเจ้า ตั้งตนเป็นปรปักษ์ที่ตรงไปตรงมากับสภาพการ์ทางการเมือง และเป็นผู้สนับสนุนเสรีภาพของประชาชน ถ้อยคำของเขาทิ่มแทงและทำลายศัตรูด้วยพลังแห่งความจริงที่อยู่ในเนื้อหา เรื่องราวได้เกิดขึ้นในอิตาลีระหว่างช่วงเวลาแห่งความวุ่นวายทางการเมืองในกลางศตวรรษที่สิบเก้า นวนิยายที่ไม่ธรรมดาเล่มนี้เป็นหนังสือขายดีที่สร้างแรงบันดาลในไปทั่วโลกโดยเฉพาะผลกระทบทางอารมณ์ที่โดดเด่นเป็นอย่างยิ่ง ในยุคปัจจุบันนี้ก็สมควรแล้วที่นักอ่านรุ่นใหม่ๆ จะได้สัมผัสนวนิยายอันเข้มข้นและกรุ่นไปด้วยกลิ่นอายของการเมืองในเล่มนี้

สำนักพิมพ์แอร์โรว์

อ้ายเหลือบ อี.แอล.วอยนิช  เขียน นารียา แปล สำนักพิมพ์ก่อไผ่ พ.ศ. ๒๕๒๖ มี ๕๒๘ หน้า

     อ้ายเหลือบ เป็นนวนิยายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเรื่องหนึ่งของศตวรรษที่ยี่สิบ นักประพันธ์หญิงผู้เขียนมีนามว่า เอเธล ลิเลียน วอยนิช (๑๘๖๔ ๑๙๖๐) เธอเคยเป็นครูสอนหนังสือและดนตรีได้สมรสกับวอยนิช นักศึกษาและนักปฏิวัติชาวโปลผู้เคยต่อสู้เพื่ออิสรภาพของโปแลนด์มาแล้ว จนถูกเนรเทศไปไซบีเรีย ภายหลังมาประกอบอาชีพเป็นพ่อค้าขายหนังสือหายากอยู่ในอังกฤษ ในปี ๑๙๖๐ ได้อพยพไปอยู่สหรัฐอเมริกา และคงอยู่ที่นั้นจนถึงแก่กรรมทั้งสามีภรรยา   
    ความใหญ่ยิ่งของ อ้ายเหลือบ ที่สามารถสร้างความประทับใจแก่ผู้อ่านอย่างยากที่จะหานวนิยายเรื่องใดเทียบได้นั้น อยู่ที่ความสามารถของผู้ประพันธ์ในการสร้างตัวละครที่มีชีวิตชีวา มีความสมจริงในแง่ที่ว่า นอกจากจะเป็นผู้ยึดมั่นในอุดมคติแล้ว ยังกล้าต่อสู้และเสียสละเพื่ออุดมคติด้วย ชีวิตในวัยหนุ่มสาวที่ร้อนแรงอยู่ด้วยความรักและความห้าวหาญในการต่อสู้ของ อ้ายเหลือบเป็นเสมือนลำนำเพลงอันไพเราะและเป็นอมตะ ที่ผู้ฟังจะสามารถรับฟังได้ด้วยดวงใจที่สดใสตลอดไป.