ข้อมูล
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
รายละเอียดสินค้า
เลือดทิเบต Born in Tibet อัตชีวประวัติ เชอเกียม ตรุงปะ บทบันทึกแห่งปัญญาญาณ และวัฒนธรรมอันเก่าแก่ที่ธำรงอยู่ในทิเบต  เชอเกียม ตรุงปะ เขียน บุลยา แปล สำนักพิมพ์มูลนิธิโกมลคีมทอง พิมพ์ครั้งที่ ๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ มี ๔๖๔ หน้า 

หนังสือ “เลือดทิเบต” ซึ่งเป็นอัตชีวประวัติช่วงต้นในชีวิตของท่านเชอเกียม ตรุงปะ วัชราจารย์ชาวทิเบต ผู้ใช้เวลากว่ายี่สิบปีในการเผยแผ่พุทธศาสนาในซีกโลกตะวันตก เป็นหนึ่งในธรรมาจารย์ชาวทิเบตเพียงไม่กี่ท่าน ที่ยอมทิ้งคราบความเป็นลามะและวัฒนธรรมทิเบตที่เขาเติบโตมา เพื่อการทำความเข้าใจชีวิตศิษย์ชาวตะวันตกของเขาอย่างไม่ถือตน หนทางการปฏิบัติและคำสอนของท่าน จะนำมาสู่การปฏิบัติและแนวทางในชีวิตของเราได้อย่างไร ในบริบทของสังคมไทยและในโลกสมัยปัจจุบัน คุณกฤษดาวรรณ หงศ์ลดารมภ์ ผู้เลื่อมใสและศรัทธาต่อพุทธศาสนาในทิเบต จนกลายเป็นแรงบันดาลใจให้ก่อตั้งมูลนิธิพันดาราและศูนย์วัฒนธรรมทิเบต เพื่อเผยแพร่ภาษา ศาสนา และวัฒนธรรมแบบทิเบต อธิบายให้เห็นถึงการศึกษารายละเอียดของพุทธศาสนาแบบทิเบต ที่เน้นความสัมพันธ์ระหว่างครูกับศิษย์ เชอเกียม ตรุงปะ ถือเป็นครูที่ยิ่งใหญ่ในพระพุทธศาสนาฝ่ายทิเบต แต่แทบจะไม่มีใครรู้จักท่าน ทั้งในหมู่ชาวทิเบตและชาวต่างชาติ “เลือดทิเบต” ช่วงแรกเป็นการบอกเล่าเรื่องราวชีวิตของเชอเกียม ตรุงปะ ตั้งแต่เมื่อตอนเป็นนักบวช ท่านได้รับการบ่มเพาะในด้านการปฏิบัติอย่างสมบูรณ์ในสมัยที่อยู่วัด จนกระทั่งอพยพออกมาจากทิเบต ท่านมองว่าการไปอยู่ในโลกตะวันตก ไปอยู่กับผู้คนซึ่งในสังคมสมัยนั้นไม่มีธรรมะ การครองจีวรสีแดง การมีตำแหน่งเป็นตุลกู ไม่สามารถทำให้ท่านเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตลูกศิษย์ได้ ท่านจึงตัดสินใจเรียนรู้การใช้ชีวิตที่เหมือนลูกศิษย์ เป็นฆราวาสในโลกสมัยใหม่

    เมื่อเชอเกียม ตรุงปะ ได้สัมผัสกับผู้คนในตะวันตก ดินแดนที่ซึ่งไม่มีใครเข้าใจในพระพุทธศาสนา แม้ท่านเคยเป็นพระอาจารย์ยิ่งใหญ่ มีลูกศิษย์จำนวนมากในทิเบต แต่ในตะวันตกท่านหาลูกศิษย์ไม่ได้แม้แต่คนเดียว ท่านตัดสินใจไปอยู่อเมริกา เผยแพร่พระพุทธศาสนาให้แก่ชาวอเมริกัน ซึ่งขณะนั้นกำลังโหยหาพระธรรม พระธรรมใดๆ ก็ตามที่จะช่วยให้เข้าใจสภาวะจิต เพราะขณะนั้น อเมริกากำลังอยู่ในช่วงสงครามเวียดนาม ผู้คนต่างมีความรู้สึกว่าชีวิตขาดทิศทาง โหยหาจิตวิญญาณที่จับต้องได้  เชอเกียม ตรุงปะ ได้พยายามสอนให้ชาวตะวันตกเหล่านี้ได้รู้จักกับชัมบาลา มันไม่ใช่สิ่งที่อยู่ห่างไกลจากตัว แต่สิ่งเหล่านี้อยู่ในใจ ท่านพยายามชี้ให้เห็นว่าธรรมมันไม่ใช่ดินแดนในทางโลก มันต้องปฏิบัติแล้วจึงจะค้นพบ แม้เชอเกียม ตรุงปะ จะเป็นนิรมานกาย ผู้สืบสายทางจิตวิญญาณอันเป็นที่เคารพของชาวทิเบต แต่ท่านค่อนข้างจะมีวิถีที่แตกต่างจากนิรมานกายองค์ก่อน ท่านเป็นคุรุในโลกสมัยใหม่ มีลูกศิษย์เป็นฮิปปี้ ซึ่งภายหลังคนเหล่านั้นได้กลายเป็นคุรุทางจิตวิญญาณที่ยิ่งใหญ่หลายท่าน ท่านได้เปลี่ยนบุคคลที่ชีวิตไม่เหลืออะไร กลับมามีชีวิตที่เติมเต็มและมาเป็นครูสอนธรรมให้แก่ผู้อื่น

    คุณรสนา โตสิตระกูล นักแปลหนังสือพุทธศาสนาและผู้นำแนวคิดพุทธธรรม มาประยุกต์ใช้กับการพัฒนาสังคม ผู้ซึ่งสนใจและติดตามงานเขียนของเชอเกียม ตรุงปะ นำเสนอมุมมองจากหนังสือ “เลือดทิเบต” ว่าเป็นการปูพื้นฐานให้เราเห็นถึงช่วงชีวิตของเชอเกียม ตรุงปะ ที่สามารถแสดงธรรมะอย่างมีสีสันในโลกตะวันตกสมัยใหม่ ซึ่งต้องเกิดขึ้นจากการเคี่ยวกรำ การบ่มเพาะอย่างหนัก ขณะที่รัฐบาลจีนบุกเข้าทิเบต ท่านมีอายุเพียง 20 ปี สำหรับคนที่ถูกบ่มเพาะตามจารีตประเพณีอย่างหนัก ถือเป็นพื้นฐานที่สำคัญมาก ผลงานชิ้นสำคัญของเชอเกียม ตรุงปะ อีกเล่มหนึ่งคือหนังสือ “ทะลวงวัตถุนิยมทางจิตวิญญาณ ” เป็นสิ่งที่จะทำให้เราเกิดความเข้าใจในความเป็นท่านมากขึ้น โดยเมื่อท่านเข้าไปสอนในโลกตะวันตก ท่านจะปรับเปลี่ยนรูปแบบการสอนออกไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนอเมริกันที่ส่วนใหญ่เป็นคนที่นิยมวัตถุ แม้แต่การแสวงหาทางจิตวิญญาณก็เป็นการแสวงหาแบบวัตถุนิยม การแสวงหาแบบสะสม ท่านพยายามทะลวงให้ศิษย์ได้รับธรรมะที่แท้จริง ธรรมะต้องเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ธรรมะต้องไม่เป็นเพียงเครื่องประดับ ซึ่งธรรมมะนั้นเป็นประสบการณ์ทางตรงที่เป็นการส่งต่อระหว่างอาจารย์กับลูกศิษย์ ส่วนเรื่อง นิรมานกายหรือการสืบสายทางจิตวิญญาณนั้น ก็เปรียบเสมือนเมล็ดข้าว เมล็ดข้าวที่เราหว่านลงไป มันจะงอกเป็นต้นและสุดท้ายก็จะกลับกลายเป็นรวงข้าวที่มีเมล็ด เมล็ดเหล่านี้ก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของเมล็ดแรก และเมื่อเอาไปปลูกต่อมันก็เป็นข้าวสืบเนื่องกันเรื่อยมา อุปมาว่า นิรมานกายก็เป็นการสืบเนื่องกันต่อมา การสืบเนื่องที่ว่านั่นเป็นเรื่องของธรรมะในจิตใจ

    ในการนี้ นายแพทย์วิชัย โชควิวัฒน ประธานมูลนิธิโกมลคีมทอง ได้แลกเปลี่ยนและให้แง่มุมต่อพุทธศาสนาอย่างน่าสนใจไว้ว่า พุทธศาสนาแบบไทยได้ถูกตีกรอบ และจากกรอบนี้เองที่กลายมาเป็นตัวกำหนดว่า สิ่งที่ดีที่สุดคือพุทธเถรวาท ในส่วนของวัชรยานก็ถูกมองว่าเป็นพุทธที่เสื่อม แต่แท้ที่จริงแล้วศาสนาพุทธเริ่มต้นที่เถรวาทได้ประมาณ 500 ปี หลังจากนั้นก็เกิดการประณีประนอม ผสมผสานกับศาสนาฮินดู จนเกิดเป็นพุทธศาสนาแบบมหายาน (มีพระเจ้าหลายองค์) แล้วก็เกิดการผสมรับเอาลัทธิตันตระ ของพราหมณ์เข้ามา จนทำให้เกิดพุทธศาสนาแบบวัชรยานขึ้น ซึ่งพุทธแบบเถรวาทอธิบายว่า นี่เป็นความเสื่อมถอยของพุทธศาสนาตามลำดับ แต่พุทธแบบวัชรยานกลับมองว่าเป็นความเจริญขึ้น “ในปัจจุบันเราอยู่ภายใต้สังคมและโลกที่สลับซับซ้อน สังคมที่ถูกปกคลุมด้วยเรื่องของวัตถุนิยม การที่แต่ละคนจะค้นหาเส้นทางที่จะยกระดับและพัฒนาจิตวิญญาณภายในของเรานั้น จำเป็นที่จะต้องแหกกรอบของวัตถุนิยมให้ได้ เราจะต้องทบทวนเพื่อที่จะกลับมาหาธรรมเดิมแท้ให้ได้ ดังเช่น ท่านพุทธทาสเคยกล่าวไว้ว่า “อยากให้พุทธศาสนิก รวมทั้งศาสนิกทั้งหมดในโลก กลับมาค้นหาแก่นธรรมในศาสนาของตนเอง ในฐานะที่เป็นศาสนิกของศาสนานั้นๆ และร่วมกันนำพาโลกให้หลุดออกจากวัตถุนิยม” แต่การที่จะเดินทางไปหาจุดหมายของชีวิตได้นั้น เราจะต้องพบเจอกับขวากหนามอันเป็นอุปสรรคของชีวิตอย่างมากมาย แต่ถ้าเรามีแนวทางการปฏิบัติที่เหมาะสม ตรงตามจริตของเราเอง เราก็จะสามารถเข้าใจถึงธรรมชาติเดิมแท้ได้ ซึ่งมันจะเป็นพลังให้เราหลุดพ้นจากวัตถุนิยมทางจิตวิญาณ”

เลือดทิเบต Born in Tibet อัตชีวประวัติ เชอเกียม ตรุงปะ บทบันทึกแห่งปัญญาญาณ และวัฒนธรรมอันเก่าแก่ที่ธำรงอยู่ในทิเบต เชอเกียม ตรุงปะ เขียน บุลยา แปล
เลือดทิเบต Born in Tibet อัตชีวประวัติ เชอเกียม ตรุงปะ บทบันทึกแห่งปัญญาญาณ และวัฒนธรรมอันเก่าแก่ที่ธำรงอยู่ในทิเบต เชอเกียม ตรุงปะ เขียน บุลยา แปล
เงื่อนไขอื่นๆ
Tags

นโยบายการเปลี่ยนหรือคืนสินค้า

ไม่มีนโยบายการเปลี่ยนหรือคืนสินค้า

ประเภทหนังสือ

CONTACT US

MEMBER ZONE

test link adipiscing elit. Nullam dignissim convallis est. superscript dolor subscript

พูดคุย-สอบถาม