วันคุ้มครองโลก
นำ้เป็นปัจจัยสำคัญที่สองรองจากอากาศในฐานะเป็นตัวการเพื่อให้สิ่งมีชีวิตทั้งหลาย รวมทั้งคนมีชีวิตอยู่ได้ นำ้เป็นหนึ่งในสิ่งแวดล้อมที่เกิดมลภาวะพิษจนถึงขั้นที่สิ่งมีชีวิตทั้งหลายจะดับสูญหมดสิ้นไปได้ในเวลาที่ไม่นานนัก มนุษย์ได้เห็นนิมิตหลายประการที่โลกจะเป็นเช่นนั้นได้จริงๆ จึงได้ร่วมมือปฏิบัติมากมายหลายอย่าง เพื่อป้องกันไม่ให้โลกแปรสภาพไปจนถึงขั้นวิกฤต ทำให้สหประชาชาติ ซึ่งมนุษย์ตั้งขึ้นเพื่อให้คุ้มครองดูแลโลกได้ประกาศให้มีวันคุ้มครองโลก หรือ Earth Day ขึ้นเพื่อเตือนให้ประชากรโลกได้ระลึกถึงภาวะต่างๆ ที่เป็นอันตรายต่อโลกและช่วยกันขจัดภาวะเหล่านั้นให้หมดสิ้นไป วัน Earth Day หรือวันคุ้มครองโลก คือวันที่ 22 เมษายน แต่มิได้หมายความว่า วันที่ 22 เมษายน เป็นวันเดียวที่มนุษย์จะขจัดมลพิษต่างๆ ในโลกให้หมดสิ้นไป เพื่อคุ้มครองโลกไม่ให้เป็นอันตรายจากมลพิษต่างๆ ที่ประชากรโลกนั้นเองเป็นผู้กระทำขึ้น สหประชาชาติได้ประกาศให้มีวันคุ้มครองโลกขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2513 แต่ประชากรโลกยังไม่เห็นชัดเจนนักว่าโลกต้องการความเอาใจใส่ในเรื่องที่เกี่ยวกับมลพิษ ที่จะเป็นภัยแก่โลกชัดเจนนัก ใน 10 ปีแรกที่มีการประกาศวันคุ้มครองโลก จึงไม่ใส่ใจนักที่จะช่วยกันคุ้มครองโลก แม้ในสี่ถึงห้าปีที่แล้วมานี้ ความใส่ใจและความสนใจของประชากรโลดก็มิได้มีมากนักต่อวันคุ้มครองโลกและการคุ้มครองโลก บัดนี้ ในปีนี้ มลพิษที่เป็นอันตรายต่อโลกปรากฎขึ้นให้เห็นได้อย่างชัดเจน จึงมีมนุษย์ที่รักโลกอย่างแม้จริง หลายร้อยกลุ่มพากันปฏิบัตืการนานาประการ ที่จะช่วยกันคุ้มครองโลกให้พ้นภัยจากมลพิษนานาประการ.
ตรงนี้ขอชี้แจงความหมายของ เอิร์ทเดย์ สักหน่อย ในภาษาอังกฤษมีคำที่เราแปลเป็นภาษาอังกฤษว่าโลกอยู่ 3 คำ คือ Earth คำหนึ่ง Globe คำหนึ่ง และคำว่า World อีกคำหนึ่ง คำว่า Earth หมายความถึงสิ่งต่างๆในลักษณะกายภาพที่รวมกันเป็นโลก เช่น ดิน น้ำ ภูเขา พืช ทะเล และอื่นๆ ซึ่งรวมกันเป็นรูปธรรมของโลก Globe หมายถึงโลกที่กลม และความหมายทั่วไปก็เหมือนกับคำว่า Earth แต่บ่งถึงว่าต้องเป็น Earth ที่มีลักษณะเป็นทรงกลมด้วย ความหมายเดิมของ Globe คือทรงกลม และเมื่อนักวิชาการพิสูจน์กันได้ว่า Earth นั้นมีลักษณะเป็นทรงกลมก็ใช้คำว่า Globe เรียกชื่อ Earth ด้วยอีกชื่อหนึ่ง ส่วน Earth เป็นคำเก่าแก่ที่ใช้เรียกชื่อโลกโดยยังมิได้รู้ว่ามีลักษณะของมวลเป็นอย่างไรแน่ เมื่อใดที่ต้องการจะพูดถึงโลกหนักไปทางลักษณะทรงกลมของโลก ก็มักจะใช้คำว่า Globe เช่นเพื่อพูดถึงการบินทั่วโลกของสายการบิน การโคจรของยานอวกาศ และการติดต่อสื่อสารกันทั่วโลกด้วยคลื่นวิทยุ สำหรับคำว่า world มีความหมายหนักไปในทางนามธรรมของสิ่งที่มีอยู่ในโลก เช่นการรวมตัวกันของมนุษย์ในโลกขึ้นเป็นสังคม กลุ่มสิ่งมีชีวิตในโลก ปฏิกิริยาระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตด้วยกัน และระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งไร้ชีวิต อารยธรรมและวัฒธรรมต่างๆ ที่มนุษย์สร้างขึ้น พฤติกรรมของสิ่งมีชีวิตโดยเฉพาะมนุษย์ และสิ่งอื่นๆ ทั้งหลายทั้งสิ้นที่มนุษย์คิดสร้างขึ้น และนามธรรมทั้งหลายที่มนุษย์คิดขึ้น ในภาษาไทยนั้น พจนานุกรมเล่มหนึ่งให้คำแปลของคำ World ว่าโลกมนุษย์ และหมายถึงสิ่งต่างๆทั้งหลายทั้งสิ้นในโลกที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กับมนุษย์เช่น World Record (สถิติโลก)World Champion (แชมเปียนโลก) World Price (ราคาโลก) World War (สงครามโลก) World Population (ประชากรโลก) เป็นต้น
สำหรับคำ Earth Day ที่สหประชาชาติกำหนดให้เป็นวันคุ้มครองโลกนั้น สหประชาชาติมีเจตนาที่จะปลุกระดม ให้ประชากรโลกได้ตระหนักถึงมลพิษที่เกิดขึ้นในสิ่งแวดล้อมกายภาพของโลก และให้ช่วยกันกำจัดมลพิษเหล่านั้นให้หมดสิ้นไป เพื่อให้ลักษณะกายภาพของโลกเป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ และสิ่งมีชีวิตอื่นๆได้อยู่อาศัยอย่างสุขสบายชั่วกัลปาวสาน ที่สหประชาชาติใช้คำว่า Earth ก็เพื่อเพ่งเล็งไปที่ลักษณะกายภาพของดลก ส่วนการคุ้มครองโลกมนุษย์หรือ World ก็อยู่ในความรับผิดชอบของประชาชาติแต่ละประชาชาติอยู่แล้ว ทั้งประชาชาติต่างๆก็ได้รวมกันเป็นองค์การสหประชาชาติ และดูแลโลกมนุษย์อยู่อย่างเป็นกิจกรรมปรกติอยู่แล้วด้วย
ได้รายงานว่าตั้งแต่ถนนสายสำคัญๆ ในสหรัฐอเมริกาจนถึงเขตแดนไกลๆ ในแอฟริกาและเอเชีย และตลอดไปถึงยอดเขาเมานท์เอเวอร์เรสต์แห่งภูเขาหิมาลัยมีขยะ หมู่บ้านต่างๆ รอบโลกจะหยุดงานปรกติระยะหนึ่งในสัปดาห์นี้เพื่อแสดงอภินันทนาการแก่โลกผู้ให้กำเนิดแก่ทุกสิ่งทุกอย่าง เด็กนักเรียนในกรุงไคโร ในกรุงโคเปนเฮเก็น ในกรุงริโอเดจะไนโร และเมืองอื่นๆ อีกนับไม่ถ้วนจะพากันหยุดเรียน เพื่อไปปลูกต้นไม้ นักแสดงที่มีชื่อเสียงหลายคน เช่น Paul McCartny John Denver จะออกแสดงในที่สาธารณะอย่างเป็นตัวแทนของสิ่งแวดล้อม คนฝรั่งเศสจะจับมือต่อๆ กันเป็นลูกโซ่ยาว 838 กิโลเมตร ไปตามริมฝั่งแม่นำ้ลัวร์ เพื่อเรียกร้องให้คนเอาใจใส่กับน้ำในแม่น้ำลัวร์ ซึ่งเสียแล้วเป็นส่วนมาก ในกรุงบอนน์และกรุงลอนดอน กลุ่มปลุกระดมหลายกลุ่ม ได้พยายามปลุกระดมให้พ่อค้าเลิกใช้ถุงและหีบห่อพลาสติกในการใช้บรรจุสินค้า ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ในประเทศไนจีเรียจะมีนิทรรศการใหญ่หลวง แสดงภาพสิ่งโสโครก และกองขยะทั้งประเทศ ชาวไนจีเรีย รู้กันว่าสิ่งเหล่านี้เกิดเป็นมลพิษอย่างร้ายแรง และเมื่องต่างๆ ตั้งแต่ฮ่องกงไปจนถึงซัสกัตชีวาน ได้วางแผนการอย่างรอบคอบที่จะกวาดล้างขยะให้หมดสิ่นไปจากบ้านเมืองหลายต่อหลายเมือง ได้ขอร้องให้ประชาหรของเมืองให้จอดรถยนต์ไว้ในบ้านเสียหนึ่งวัน และอึกหลายเมืองได้รณรงค์ให้ประชากรเห็นคุณค่าของการใช้รถจักรยาน ซึ่งไม่ก่อให้เกิดมลพิษขึ้นในอากาศเลย นักปืนเขา ๕ คนจะปืนเขาไปให้ถึงยอดเขาเมานท์เอเวอร์เรสต์เพื่อทำลายขยะที่นักปืนเขากลุ่มก่อนๆ ได้ทิ้งเอาไว้ หลายประเทศจะร่วมมือกันจัดรายการสอนทางวิทยุ ทางโทรทัศน์ และทางโรงฝึกงานให้รู้จักวิธีกำจัดขยะและไม่ทำสิ่งใดให้เกิดมลพิษ ในประเทศไทย โดยเฉพาะเทศบาลกรุงเทพมหานครได้เพิ่มมาตรการหลายประการในการกำจัดขยะ คุณหญิ่งชดช้อย โสถณพนิช ซึ่งได้รณรงค์การกำจัดขยะด้วยโครงการตาวิเศษมาหลายปีแล้ว ได้ขยายโครงการตาวิเซษให้กล้างขวางขึ้น และดร.คุณหญิงในตระกูลโสภณพนิชอีกผู้หนึ่ง ได้วางแผนการให้ประชาชนช่วยกันปลูกต้นไม้ในที่ปลูกได้ทั่งประเทศภายในระยะเวลา ๕ ปี และโดยมิได้เกี่ยวโยงไปถึงวันคุ้มครองโลกโดยตรง รัฐบาลไทยก็ได้วางมาตราการอย่าเข็มแข็งในการปราบผู้ต้ดไม้ทำลายป่า และวางโครงการปลูกป่าให้ประเทศไทยได้มีเนื้อที่ป่าไม่น้อยกว่า ๔๐ เปอร์เซนต์ กิจกรรมต่างๆเหล่านี้ เป็นความพยายามอย่างใหญ่หลวงที่จะเตือนประชากรโลกให้ระลึกถึงวัตถุทั้งหลายทั้งสิ้น ที่ช่วยให้สิ่งมีชีวิตดำรงชีวิตอยู่ได้ในโลก และให้ช่วยระดมกันกวาดล้างให้สะอาดปราศจากมลพิษ ก่อนที่จะเป็นการสายเกินไป
ความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่โลกมีให้เห็นอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่ง การล่มจมของระบบการปกครองแบบคอมมิวนิสต์ของประเทศในยุโรปตะวันออก เมื่อเร็วๆนี้ เปิดเผยให้เห็นสภาพความเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อมของโลกอย่างน่าสะพรึงกลัวยิ่ง และได้พิสูจน์ไห้เห็นว่า มลพิษเกิดขึ้นที่ไหนก็ได้ โดยไม่มีขอบเขตและโดยไม่มีข้อจำกัด ว่าดินแดนนั้นจะมีอุคมคติในการปกครองเป็นแบบใด ส่วนของโลกที่เป็นเขตอุตสาหกรรมและที่เป็นเขตกำลังพัฒนา ต้องละอายใจเท่าๆกันที่เป็นตัวการที่ทำให้โลกเสื่อมโทรมลงเช่นนี้ ทวีปยุโรป ตามความเห็นของวารสาร Time เป็นดินแดนที่เสื่อมโทรมที่สุด แต่แอฟริกาก็กำลังจะเป็นดินแดนที่คนอยู่ไม่ได้ ทั้งๆที่คนกว่า ๕๐ ล้านคน มีชีวิตอยู่อย่างแร้นแค้นยิ่งอยู่แล้วเพราะพื้นดินกำลังจะกลายเป็นทะเลทรายไปจนกระทั่งเพราะปลูกไม่ได้ และทุพภิกขภัยขู่คำรามอยู่เป็นประจำ นักวิจัยแห่งมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งบันทึกไว้ว่า การหายใจในเมืองไคโรเป็นการคุกคามชีวิตประการหนึ่งและเขาเปรียบเทียบว่าเป็นอันตรายพอๆกับการสูบบุหรีวันละสองซอง เม็กซิโก ซิตี้ เมืองหลวงของประเทศเม็กซิโกก็มีสภาพอย่างเดียวกัน รัฐบาลโซเวียตจัดพิมพ์รายงานออกมาว่า เมื่อปีที่แล้ว หนึ่งคนในห้าคนของประชนชนในสหภาพโซเวียต หายใจเอาอากาศซึ่งมีสารพิษเชิงเคมีสูงกว่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ว่าปลอดภัย ถึงสิบเท่า และประชนชนในเมืองต่างๆ ของสหภาพโซเวียตเกือบหกร้อยเมือง ได้รับคำแนะนำให้ดื่มนำ้สะอาดจากขวดที่ทำขึ้นสำหรับดื่ม ตรงนี้คล้ายๆกับกรุงเทพและเมืองต่างๆหลายเมืองในประเทศไทย ที่นักท่องเที่ยวได้รับคำแนะนำให้ดื่มแต่เฉพาะนำ้ดื่มในขวดเท่านั้น
ในหลายๆ ปีที่แล้วมา เกิดมีมลพิษชนิดใหม่ขึ้น เนื่องามาจากควันที่ออกมาจากปล่องโรงงานอุตสาหกรรมเป็นส่วนใหญ่ เรียกว่าฝนกรด หรือ Acid Rain คือนำ้ค้างฟ้าในอากาศมีสารเคมีที่มีสภาพเป็นกรดปนอยู่เมื่อน้ำค้างฟ้ากลายเป็นฝนตกลงมา ฝนนั้นก็มีกรดปนอยู่ด้วย จึงได้ชื่อว่า ฝนกรด และได้เตือนให้ตระหนักถึงภัยที่เกิดจากการตัดไม้ทำลายป่ามหันตภัยจากรังสีนิวเคลียร์อย่างที่เกิดขึ้นที่โรงงานในเมืองเชอร์โนบิล ในสหภาพโซเวียต และเมืองโบพัลในประเทศอินเดีย และมลพิษปริมาณกว้างขวางยิ่งที่เกิดจากเรือบรรทุกนำ้มันแตกในอลาสกา
นับแต่วันคุ้มครองโลกวันแรกใน พ.ศ. ๒๕๑๓ ได้มำให้มีกลุ่มต่อต้านการก่อมลพิษขึ้นหลายรูปแบบและมากมายทั่วโลก และประชากรโลกนับล้านๆ คนก็ได้เข้าสมทบกับกลุ่มต่อต้านเหล่านี้ กลุ่มต่อต้านซึ่งมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดีทั่วโลกคือ กลุ่มกรีนพีซ Green Peace ซึ่งกระทำการต่อต้านการกระทำต่างๆ ที่ทำให้เกิดมลพิษทุกรูปแบบ การคุกคามแหล่งทรัพยากร และสิ่งแวดล้อมของโลกเช่นนี้ เป็นประเด็นสำคัญยิ่งที่ประชากรโลกทั้งมวลต้องเอาใจใส่ จังโอดูซ ที่ปรึกษาทางวิทยาศาสตร์ของประธานาธิบดีมิตเตอร์ร็อง แห่งฝรั่งเศสกล่าวว่า ภัยเหล่านี้เป็นเหมือนพายุร้ายซึ่งตั้งเค้าขึ้นแล้ว พร้อมที่จะพัดกระหน่ำอย่างรุนแรง แต่ประชากรโลกก็เริ่มรู้สึกแล้วว่า การป้องกันภัยนี้ไม่ใช่เป็นเพียงหน้าที่ของคนใด คนหนึ่งหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่เป็นหน้าที่ของทุกคน การใช้อิทธิพลทางการเมืองเพื่อช่วยกดดันในเรื่องนี้ ก็ได้เริ่มขึ้นแล้วอ่อนๆ ในหลายประเทศในทศวรรษที่แล้ว กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในประเทศเยอรมันตะวันตก ซึ่งเรียกว่า กลุ่มเยอรมันกรีนส์ Greman Greens ได้เริ่มพยายามที่จะดึงเอาอิทธิพลทางการเมืองมาใช้ในการดำเนินการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม กลุ่มที่มีวัตถุประสงค์อย่างเดียวกันในยุโรปตะวันตกก็ได้เคลื่อนไหวอย่างเดียวกัน คือ ดึงเอาอิทธิพลทางการเมืองมาใช้เป็นตัวการในการปฏิบัติงานอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ในประเทศสหรัฐอเมริกา ชาวอเมริกันได้ก่อตั้งกองกำลังแบบต่างๆ ที่จะบังคับให้หน่วยงานการเมืองของมลรัฐต่างๆให้ออกกฎหมายที่เข้มแข็งกว่ากฎหมายของรัฐบาลกลาง ในเรื่องความผิดที่เกี่ยวกับการกระทำให้เกิดมลพิษในสิ้งแวดล้อม และการเคลื่อนไหวของสามัญชนทั้งหลายเหล่านี้ ทำให้เกิดกลุ่มต่างๆ นับพันกลุ่มที่มีแผนการสารพัดอย่าง ที่จะปฎิบัติงานคุ้มครองโลก รวมทั้งกลุ่ม กรีนพิซ Green Peace และกลุ่มวิลเดอร์เนสส์ โซไซเอตี Wilderness Society ซึ่งรู้จักกันดีทั่วโลก
ในประเทศไทย เรามีโครงการอีสานเขียว ซึ่งเกิดขึ้นจากพระราชดำริของในหลวงของเรา นับว่าเป็นการปฎิบัติงานคุ้มครองโลกที่ทำงานอย่างแข็งขัน ควรที่จะเป็นตัวอย่างของกลุ่มอื่นๆ ทั่วโลกที่ปฎิบัติอย่างเดียวกัน และการปฎิบัติเช่นนี้ได้ผลอย่างมีนัยสำคัญ ผลอันหนึ่งซึ่งเกิดขึ้นอย่างที่น่าประหลาดใจของชาวโลกทั่วไปเกิดขึ้นในประเทศบราซิล ซึ่งรัฐบาลมีนโยบาย ที่จะพัฒนาประเทศด้วยการตัดโค่นและเผาทำลายป่าทึบ หรื่อทีเรียกว่า Rain Forest นับล้านๆ ไร่ในลุ่มแม่นำ้อเมซอน Amazon จนทำให้ชายผู้หนึ่งชื่อว่า ชิกโก เมนเดส ถูกฆ่าตายเพราะเป็นผู้ขัดขวางนโยบายของรัฐบาลที่จะทำลายป่าทึบอันมโหฬารแห่งนี้ คนทั่วโลกประท้วงนโยบายทำลายป่าทึบแห่งอเมซอน เพราะการสูญเสียป่าทึบนี้ จะเกิดผลที่เป็นอันตรายต่อภาวะแวดล้อมของโลกด้วย ชาวบราซิลเห็นด้วยกับการประท้วงนี้และได้ร่วมกับชาวโลกประท้วงด้วย ทุกวันนี้ชาวบราซิลรวมตัวกันหลายพันกลุ่ม พยายามที่จะถนอมป่าทึบตามชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกที่เหลืออยู่เพียง ๓ เปอร์เซนต์ รวมทั่งสัตว์ป่าหลายพันชนิดที่อาศัยอยู่ในป่าทึบเหล่านี้ด้วย เป็นกลุ่มของชาวพิ้นเมืองแอฟริกาแท้ๆ และส่วนมากเป็นกลุ่มที่ก่อตั้งขึ้นโดยสตรีและคนหนุ่มสาว วารสาร Time รายงานว่า กลุ่มคุ้มครองโลกเหล่านี้เกิดขึ้นรวดเร็วเหมือนไฟไหม้ทุกหญ้า การดำเนินการของกลุ่มเหล่านี้มีวัตถุประสงค์เกียวกับการทำประโยชน์ให้เกิดขึ้นทันตาเห็น คือการอนุรักษ์สิ่งที่เป็นอาหารได้ พืช และนำ้ดื่ม ผู้นำของกลุ่มเหล่านี้กล่าวว่า นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมชาวแอฟริกา ทำงานได้ผลอย่างรุ่งโรจน์ เพราะไม่ได้ติดสัมพันธ์กับโครงการพัฒนาระหว่างชาติ ซึ่งเป็นขององค์การระหว่างชาติที่จะทำการคุ้มครองโลก กลุ่มของพวกเขาทีความคิดริเริ่มของตนเอง เมื่อคิดกันว่าจะทำสิ่งใดเพื่อประโยชน์แก่ตนก็ทำสิ่งนั้นทันที ไม่ต้องรอให้คนจากแดนอื่นขับรถแลนด์โรเวอร์ มาสั่งการให้เขาทำโน่นทำนี่ การรณรงค์เพื่อรักษาช้างแอฟริกัน และแรดแอฟริกัน ก็มีผู้ร่วมกระทำกันอย่างจริงจัง และได้มีมาตรการเข้มงวดที่จะกำจัดนักล่าประหารสัตว์ ๒ ชนิดนี้ให้หมดสิ้นไป แต่ในขณะนี้ยังมีเพียง ๔ ประเทศเท่านั้นปฎิบัติการคุ้มครองช้างและแรดอย่างได้ผล คือ ประเทศแอฟริกาใต้ ประเทศนามีเบีย ประเทศบอตสวานา และประเทศซิมบาบเว นักปฎิบัติการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมแห่งแอฟริกา กำลังปฎิบัติการตามแผนเอก โดยได้รับเงินทุนอุดหนุน ช่วยเหลือจากกองทุน World Wildlife Fund โดยจะจัดให้มีแหล่งรวมการอนุรักษ์สัตว์ป่า ซึ่งขณะนี้มีอยู่ประมาณ ๑๒ แห่ง ให้เป็นแหล่งเดึยวและเป็นแหล่งที่ใหญ่ที่สุดในโลก คือมีขนาดถึง ๕๐,๐๐๐ ตารางไมล์ การที่จัดเอาแหล่งอนุรักษ์สัตว์ป่าขนาดย่อมหลายๆ แห่งมารวมกันให้เป็นแหล่งเดียว นี้ นอกจากจะเป็นการง่ายที่จะป้องกันรักษาแล้ว แหล่งใหญ่จะทำการให้เป็นไปอย่างธรรมชาติแท้ๆ และเป็นไปอย่างมีประสิทธฺผลได้ด้วย แหล่งอนุรักษ์เช่นนี้จะต้องไม้เป็นสนามเล่นของพวกเศรษฐี แต่จะต้องเป็นที่พำนักพักพิงอย่างสมบูรณ์ของคนและธรรมชาติอย่างประสานกันได้สนิท และเพื่อความอยู่รอดของคนและธรรมชาติ
ในทวีปเอเชีย ศาสนาที่ชาวเอเชียนับถือ ต่างก็สั่งสอนให้คนดำรงชีวิตอยู่โดยประสานให้สนิทกับธรรมชาติ แต่เท่าที่เป็นอยู่ตามความเห็นของวารสาร TIME ความจริงมิได้เป็นเช่นนั้น จะเป็นเพราะกำลังผลักดันของความเจริญทางเศรษฐกิจ หรือเป็นเพราะชาวเอเชียส่วนมากยากจนหรือทั้งสองประการ ก็เอาเป็นแน่ชัดไม่ได้ที่ชาวเอเชีย ไม่ปฎิบัตืการอย่างเคร่งดรัดตามคำสอนของศาสนา ประเทศไทยอาจเป็นประเทศหนึ่งที่มีสภาพดังกล่าวที่วารสาร TIME กล่าวถึง เพราะประเทศไทยมีปัญหามากเกี่ยวกับตัดไม้ทำลายป่า โดยเฉพาะป่าซึ่งเป็นต้นนำ้ลำธาร มีปัญหามากเกี่ยวกับการสร้างมลพิษให้แก่สิ่งแวดล้อม มีปัญหาไม่น้อยเกี่ยวกับการอนุรักษ์สัตว์ป่าพันธ์ต่างๆ และมีปัญหาไม่น้อยเกี่ยวกับการรักษาวัสดุสำหรับอุปโภคบริโภค และเมื่อรวมๆกันเข้าอาจกล่าวได้ว่าชาวไทยระลึกถึงการดำรงชีวิตอย่างผสมผสานกับธรรมชาติน้อยไป และนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมีความเห็นว่าสภาพเช่นนี้มิได้เกิดจากความยากจนของคนไทย แต่หากว่าเกิดจากกำลังผลักดันของความเจริญทางเศรษฐกิจ มากกว่า กรณีแรกที่ทำความตระหนกตกใจให้แก่โลกเพราะได้เกิดโรคหลายอย่างที่มีสาเหตุจากภาวะมลพิษ เช่น มลพิษที่เกิดจากสารปรอทซึ่งเกิดขึ้นระหว่างปลาย พ.ศ. ๒๔๙๓ ถึงต้น พ.ศ. ๒๕๐๓ ที่ประเทศญี่ปุ่น คือในชายทะเลใกล้ บริเวณโรงงานอุตสาหกรรมที่ต้องใช้ปรอทเป็นอุปกรณ์ช่วยผลิตสินค้า ได้ปล่อยนำ้เสียที่มีสารปรอทปนอยู่ลงไปในทะเล สารปรอทนี้ได้เข้าไป อยุ่ในตัวปลา และมีคนจับปลาขึ้นมากินเป็นอาหารก็มีอากรป่วยไข้หลายโรค ซึ่งมีสาเหตุมาสารปรอท อีกกรณีหนึ่งเกิดขึ้นในญึ่ปุ่นเหมือนกัน คือการสร้างสนามบินนาริตะของญึ่ปุ่น ซึ่งจะเป็นเหตุให้เกิดมลพิษทางเสียงและเป็นการทำลายวัตถุธรรมชาติต่างๆ เพื่อปราบให้เป็นสนามบิน ชาวญี่ปุ่นตั้งกองประท้วงกันอยู่หลายปี แม้ว่าการก่อสร้างสนามบินแห่งนี้จะเสร็จสิ้นลงแล้ว กองประท้วงของชาวญี่ปุ่นก็ยังมีอยู่ในบริเวณใกล้ๆกับสนามบิน ชาวญี่ปุ่นได้ประท้วงการตั้งโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ และแม้แต่การสร้างสนามกอล์ฟในประเทศญี่ปุ่น ชาวญึ่ปุ่นก็ประท้วง และการประท้วงนั้น มีหลักการเป็นการเตือนให้ผู้สร้างสิ่งเหล่านี้ ให้ทบทวนดูว่าระหว่างความเจริญก้าวหน้าในทางเศรษฐกิจกับความเสื่อมทรามลงของชีวิตมนุษย์สิ่งใดจะสำคัญกว่า
ในหนึ่งทศวรรษที่ผ่านมา กลุ่มผู้มีปฎิกริยาต่อต้านสิ่งทำลายโลก ได้รับกำลังใจจากชาวโลกอย่างท่วมท้น และจำนวนสมาชิกของกลุ่มก็เพิ่มขึ้นอย่างทับทวี ในฮ่องกง เรื่องของคุณภาพของชีวิตเป็นประเด็นสำคัญที่ทุกคนหันมาเอาใจใส่ เพราะฮ่องกรในปัจจุบัน เป็นเมื่องอุตสาหกรรมซึ่งมีโรงง่นเล็กๆแต่สูงนับพันๆโรง และแต่ละโรงสร้างมลพิษขนาดหนักให้แก่อากาศ และที่ทิ้งขยะของเมื่องนี้ ซึ่งมีประชากรหนาแน่นที่สุดในโลก คือท่าเรื่อฮ่องกงนั้นเอง ชาวฮ่องกงรำ่ร้องว่า พวกเขาทนกันต่อไปอีกไม่ได้แล้ว ที่จะอยู่ในแหล่งโสโครกเช่นนี้ กลุ่มชาวฮ่องกง กลุ่มหนึ่งเรื่ยกชื่อกลุ่มของตนว่ากลุ่ม HongKong’sGreen Power หรือ กลุ่มพลังสีเขียวแห่งฮ่องกง รณรงค์ให้มีการการะทำมากกว่าเพียงกวาดทำความสะอาดฮ่องกง กลุ่มนี้ประกอบด้วยนักบวชในศาสนาพุทธ ศาสนาคริสต์คาทอลิก และศาสนาคริสต์โปรเตสแตนต์รวมอยู่ด้วย ได้พยายามที่จะสร้างสะพานเชื่อมนิเวศภาวะทางจิตใจ คือจะเป็นประชาชนชาวตะวันออกหรือตะวันตกก็ดี ให้มีจิตใจความคิดความอ่านเป็นหนึ่งเดียวคือ มีชีวิตสีเขียว Green life และคิดเป็นสีเขียว Green thinking ซึ่งคงจะหมายความว่าสิ่งที่มีสีเขียวต้องสำคัญกว่าสิ่งอื่นใดทั้งสิ้น ชาวฮ่องกงกล่าวว่า พวกเขาส่งเสริมสิทธิสตรี ส่งเสริมสิทธิของสัตว์ ส่งเสริมมังสวิรัติ ส่งเสริมลัทธิจิตนิยม Spiritualism ส่งเสริมการใช้จักรยาม และส่งเสริมทุกสิ่งทุกอย่างที่จะทำให้คนเกิดจิตสำนึกสีเขียวเกี่ยวกับสรรพสิ่งในโลก ชาวอินเดียคนหนึ่งชื่อ ซันเดอร์เรียล บาฮูกุนา เป็นผู้นำกลุ่มชิปโก แปลว่า กอดต้นไม้ ซึ่งเป็นกลุ่มทีเคลื่อนไหวต่อต้านการทำลายป่าในแถบเชิงเขาหิมาลัย ซึ่งเป็นเหตุที่ทำให้เกิดนำ้ท่วมใหญ่ในบริเวณลุ่มแม่น้ำคงคา เขอเป็นศิษย์ของมหาตมะคานธี เขากล่าวว่า ถ้าเราไม่อดออมในการดำรงชีวิตของเราให้เข้มงวด เราจะช่วยโลกให้อยู่รอดไม่ได้ วัตถุนิยมและแบบวิธิการอุปโภคของมนุษย์เราเป็นตัวการสำคัญที่จะนำโลกไปสู่จุดสิ้นสุด เราต้องให้โลกหยุดพักจากการับใช้เราบ้าง คติพจน์ของชาวอินเดียผู้นี้เป็นที่ยอมรับของคนทั่วโลก แต่การปฎิบัติเพื่อให้โลกได้พักผ่อน ก็ยังไม่ได้ลงมือกระทำกันจริงจังโดยผู้มีอำนาจและผู้มีกำลังที่จะกระทำได้ ดังนี้ที่นักวิชาการชาวเยอรมันหลายคนได้คะเนดูว่า ในปัจจุบันภาวะนิเวศน์ของโลกได้ถูกทำลายไปแล้วมากกว่า ๕๐ เปอร์เซนต์ และในอนาคตซึ่งมองเห็นได้นั้นอย่างน้อย ๔๐ ประเทศจะไม่มีนำ้ดีพอสำหรับอุปโภคบริโภค ภาวะแห้งแล้งในทวีปแอฟริกากำลังขยายตัวในอัตรา ๒.๓ ล้านตารางไมล์ต่อปี ป่าทึบในโลก ซึ่งเป็นปอดเขียวของโลกจะไม่มีเหลื่ออยู่อีกเลยภายใน ๕๐ ปี ถ้าหากหารตัดไม้ทำลายป่าจะดำเนินไปตามอัตราซึ่งทำกันอยู่ทุกวันนี้ นอกจากนี้ ประชากรโลกซึ่งมีอยู่ ๕ พันล้านคนในปัจจุบันนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น๘.๕ พ้นล้างคน ในพ.ศ. ๒๕๖๘ การเพิ่มขึ้นของปริมาณของมลพิษในอากาศ ความอดอยาก ซึ่งเป็นผลจากอาหารไม่เพียงพอ มวลอันใหญ่หลวงของการอพยพเคลื่อนย้ายของประชากรโลก และความขัดแย้งทางสังคมนานาประการจะร่วมกันเป็นตัวเร่งที่จะทำให้โลกถึงวาระสุดท้ายเร็วขึ้น นายกรัฐมนตรีคนก่อนของนอร์เวย์ได้กล่าวในการประชุมเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมโลกครั้งหนึ่งว่า เราอยู่ในโลกเดียวกันแต่อยู่คนละโลกมนุษย์ ซึ่งเขาคงจะหมายความว่า ประชากรโลกมิได้ร่วมใจกันจริงจังที่จะคุ้มครองโลก
ในประเทศไทย รัฐบาลไทยก็ได้ตระหนักถึงภาวะวิกฤตของสิ่งแวดล้อมโลกอยู่มากเหมือนกัน และได้เอาใจใส่ในเรื่องการปลูกต้นไม้เป็นพิเศษ เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มีนโยบายที่จะปลูกต้นไม้ให้ได้ ๔๐ ล้านต้น ภายใน ๒ -๓ ปี และได้ดำเนินการอย่างแข็งขันให้ภาคอีสานเป็นอีสานเขียว ในภาคเอกชนก็ได้มีกลุ่มต่างๆ ชักชวนกันให้ปลูกต้นไม้ในวาระสำคัญต่างๆ ในการรักษานำ้และอนุรักษ์นำ้ โดยเฉพาะนำ้ในลำน้ำเจ้าพระยา คุณหญิงชดช้อย โสภณพานิช ได้เป็นผู้นำปลุกระดมในการปฎิบัติการอย่างกว้างขวาง ตามแผนการซึ่งเรียกว่า เจ้าพระยาตาวิเศษ แต่เอกชนส่วนมากยังไม่มีความสำนึกมากนักในเรื่องการคุ้มครองโลก และยังให้ความร่วมมือไม่พอ หนังสือพิมพ์สยามรัฐประจำวันที ๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๓ ได้ตีพิมพ์บทความให้ชื่อว่า ติงรัฐบาลมุ่งสู่การค้าของรัฐทำลายทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม และในบทความนี้ได้นำคำพูดบางตอนของแจนอัชเชอร์ และมังกร เต็งประวัติ ซึ่งกล่าวในการสัดสัมมนา เรื่อง อยู่เพื่อสู้ธรรมชาติ ซึ่งสถาบันจัดสอน เอยูเอ จัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ มีใจความว่ามุ่งเน้นแต่เพียงประโยชน์ทางการค้า และขาดการมองเรื่องนิเวศวิทยา เมื่อวันที่๒๑ ๒๒ เมษษยน พ.ศ. ๒๕๓๓ ๑๖ สถาบันซึ่งใส่ใจในเรื่องการอนูรักษ์ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ได้จัดให้มีการอภิปรายขึ้นที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยตั้งหัวข้ออภิปรายว่า ป่าไม้ไทย ฤาจะไปไม่ถึงดวงดาว ผู้อภิปรายได้แสดงทรรศนะว่า ประชาชนไม่ค่อยเห็นความสำคัญของป่าไม้ เพราะเทคโนโลยีสมัยใหม่ เข้ามามีส่วนให้เกิดความสะดวกความสบาย ทั่งมีค่านิยมผิดๆ ในเรื่องการใช้ทรัพยากรธรรมชาติจากป่า มาเป็นเครื่องประดับตกแต่งบ้าน ดังนั้น ควรสร้างค่านิยมใหม่ในการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ ทั้งควรจัดให้ประชากรหาโอกาสไปสัมผัสกับธรรมชาติบ้าง เพื่อจะได้ตระหนักว่าธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์นั้นมีคุณเพียงไร ผู้อภิปรายได้ให้ขอ้สรุอว่า การรักษาป่าจะกระทำได้เมื่อทุกคนตั้งใจมุ่งมั้นและร่วมมือกัน เป็นหน้าที่ของคนไทยโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ทุกคนที่จะต้องรักษาป่าไว้ วารสารสตรีสารฉบับที่ ๔๓ ๓ ประจำวันที ๘ เมษายน พ.ศ.๒๕๓๓ ได้ตีพิมพ์บทสัมภาษณ์นายนิคม พุทธา นักอนุรักษ์เพื่อพัฒนาและเคยเป็นข้าราชการคนหนึ่งของกรมป่าไม้ แต่ปัจจุบันเป็นหัวหน้าโครงการพัฒนาชนบทเพื่อการอนุรักษ์พิ้นที่ มีข้อความที่น่าสนใจหลายตอน ตอนหนึ่งมีดังนี้ “ผมมองเห็นว่าการที่จะรักษาป่าให้ได้ มันเกิดจากจิตสำนึก เกิดขึ้นจากภาวะจิตใจจริงๆไม่สามารถที่จะไปใช้กฎหมาย ใช้ปากกระบอกปืน ใช้อำนาจให้เขาอนุรักษ์” อีกตอนหนึ่งคือ “ ถ้าเราแก้ไขความยากจนได้ มันก็จะคุยกันรู้เรื่อง ทำความเข้าใจกันรู้เรื่อง ว่าป่าไม้มีคุณค่าอย่างนี้ ถ้าปากเขายังหิวอยู่ พูดกันไม่รู้เรื่องละ เราบอกว่าต้นไม้มีประโยชน์ สัตว์ป่าก็มีประโยชน์ ชาวบ้านก็จะถามว่ามันมีประโยชน์เกินกว่าชีวิตของเขาหรือไม่ และอีกเรื่องหนึ่งนายนิคมได้เล่าถึงการช่วยลูกช้างตกเหวตาย เขาเล่าว่าขณะที่เขากำลังขับรถจากกรุงเทพ ขึ้นไปบนเขาใหญ่ซึ่งเป็นสำนักงานของเขา ระหว่างทางขึ้นเขา เขาเห็นฝูงช้างบริเวณถนนทางเข้านำ้ตกเหวนรก ช้าง ๔ ๕ เชือกเหล่านั้นมีท่าทางดุร้าย “หูตั้งหางชี้” พอขับรถถึงบ้านพัก ก็ได้รับรายงานว่ามีช้างตกน้ำตกตายหลายเชือก เช้าวันรุ่งขึ้น นายนิคมและเพื่อนร่วมงาน ๒ คน ออกไปถ่ายวิดีโอซากของแม่ช้างตัวหนึ่งลอยมาติดหิน เมื่อถ่ายภาพเสร็จก็เดินสำรวจหาสาเหตุที่ทำให้ช้างตกเหวเพื่อทำรายงาน ขณะนั้นก็พบลูกช้างตัวหนึ่งยังไม่ตาย ทั้งๆที่ตกลงมาจาหน้าผา ติดโขดหินอยู่กำลังจะถูกนำ้พัดพาไป ลูกช้างตัวนั้นขาหัก เขาจึงขอให้เพื่อนออกมาตามเจ้าหน้าที่ไปช่วย และเขาก็ได้ถ่ายภาพวีดีโอลูกช้างตัวนั้นไว้ เมื่อถ่ายภาพแล้ว ก็หาใบกล้วย ใบไผ่ไปให้ลูกช้างตัวนั้นกิน มันก็กินด้วยความหิว จนกระทั่งบ่ายเพื่อนกลับเข้ามาแจ้งว่าเจ้าหน้าที่ยังไม่มา แต่เขาก็ซื้อกล้วยติดมือมาให้ลูกช้างกิน พอย่างเข้าบ่าย ๒ โมงฝนตกลงมาหนัก นำ้ก็พัดพาเอาลูกช้างตัวนั้นตกเหวไป นายนิคมกล่าวว่าน่าสงสารมาและภาพที่เขาถ่ายไปไว้เป็นภาพที่โหดร้ายมาก.
คุณมีสินค้า 0 ชิ้นในตะกร้า สั่งซื้อทันที
ขออภัย ขณะนี้ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า
ราคาสินค้าทั้งหมด
฿ {{price_format(total_price)}}
- ฿ {{price_format(discount.price)}}
ราคาสินค้าทั้งหมด
{{total_quantity}} ชิ้น
฿ {{price_format(after_product_price)}}
ราคาไม่รวมค่าจัดส่ง