จำนวนชิ้น | ส่วนลดต่อชิ้น | ราคาสุทธิต่อชิ้น |
{{(typeof focus_pdata.price_list[idx+1] == 'undefined')?('≥ '+price_row.min_quantity):((price_row.min_quantity < (focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1))?(price_row.min_quantity+' - '+(focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1)):price_row.min_quantity)}} | {{number_format(((focus_pdata.price_old === null)?focus_pdata.price:focus_pdata.price_old) - price_row.price,2)}} บาท | {{number_format(price_row.price,2)}} บาท |
คงเหลือ | ชิ้น |
จำนวน (ชิ้น) |
- +
|
ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า คุณมีสินค้าชิ้นนี้ในตะกร้า 0 ชิ้น
|
|
|
|
คุยกับร้านค้า | |
{{ size_chart_name }} |
|
หมวดหมู่ | วรรณกรรม classic |
สภาพ | สินค้าใหม่ |
เพิ่มเติม | |
สภาพ | สินค้ามือสอง |
เกรด | ดีมาก (95-99 %) |
สถานะสินค้า | |
ระยะเวลาจัดเตรียมสินค้า | |
เข้าร่วมโปรโมชั่น | |
ข้อมูล |
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
|
รายละเอียดสินค้า |
สงครามและสันติภาพ war and peace ลีโอ ตอลสตอย เขียน พลตรี หลวงยอดอาวุธ (ฟ้อน ฤทธาคนี) แปล ๒ เล่ม ชุด สำนักพิมพ์ไม้งาม พ.ศ. ๒๕๒๖ มี ๗๙๐ และ ๘๕๑ หน้า
สงครามและสันติภาพ ได้บรรยายถึงช่วงประวัติศาสตร์อันยืดเยื้ออย่างระทึกใจละเอียดทุกแง่มุม ผสมผสานกับตำนานแห่งมวลชีวิตของผู้คนเข้าไปอย่างมีเอกภาพ นับตั้งแต่ปีเริ่มต้นจนถึงปีสุดท้ายของสงครามที่นโปเลียนยาตราทัพเข้าไปในรัสเซียอันก่อให้เกิดความยากเข็ญภัยพิบัติไปทั่ว และไม่เพียงแต่เท่านั้นนวนิยายเรื่องนี้ยังเผยให้เห็นถึงเงื่อนงำของการเปลี่ยนแปลงและความขัดแย้งของสังคม ซึ่งถือกันว่าเป็นปรัชญา "ปรัชญาชีวิต" อีกส่วนหนึ่งด้วย สงครามและสันติภาพ ได้รวมเอาความบริสุทธิ์ เล่ห์เหลี่ยม ความฉลาด ความโง่ ความพ่ายแพ้อย่างระบมรวดเร็วกับชัยชนะที่ต้องรอคอย ตอลสตอยได้บรรจงถ่ายทอดออกมาอย่างละเมียดละไม ทั้งด้านพลังของเรื่อง และ อารมณ์ ความสะเทือนใจที่ผู้อ่านจะได้รับ “สงครามและสันติภาพ” นับถือว่าเป็นวรรณกรรมชั้นเยี่ยมที่ทั่วโลกยอมรับ เนื้อเรื่องอิงอยู่กับประวัติศาสตร์พงศาวดารยุโรป 8 ปี คือระหว่าง ค.ศ.1805-1812 ตอลสตอย เดินเรื่องโดยผ่านเรื่องราวชีวิตของเจ้านายและขุนนางรุสเซีย 4-5 ตระกูลซึ่งเป็นช่วงที่ จักรพรรดิ์นโปเลียนเรืองอำนาจในยุโรป นับตั้งแต่การปฏิวัติฝรั่งเศส 1789 กองทัพฝรั่งเศสได้ปลุกกระแสชาตินิยมไปทั่วในหมู่ประชาชาติยุโรป แต่ทว่าในไม่ช้านายทหารผู้มากความสามารถที่ชื่อ นโปเลียน โบนาปาร์ท ก็สถาปนาตนเองขึ้นเป็นจักรพรรดิ์ และแผ่อาณาจักรเข้าครอบครองอำนาจเกือบค่อนยุโรป ทั้ง อิตาลี ออสเตรีย ปรัสเซีย ฯลฯ ซึ่งยังผลให้อังกฤษกับรุสเซียจับมือกันต่อต้านการรุกรานของนโปเลียน ปี 1805 นโปเลียนบุกอังกฤษทางทะเลและก็แพ้รบททราฟัลการ์โดยพ่ายแพ้แก่แม่ทัพเรืออังกฤษชื่อ เนลสัน ทำให้นโปเลียนเปลี่ยนแผนการรบมาทางตะวันออก และเข้าสู่สงครามสำคัญคือเอาส์เตร์ลิซใน ออสเตรียใน “สงครามและสันติภาพ” ได้บรรยายฉากการรบในสงคราม 1805-1807 ฝรั่งเศสและรัสเซียทำสัญญาสันติภาพต่อกันในช่วงระยะเวลาหนึ่ง และนี่คือเรื่องราวอันเป็นที่มาของนิยายอิงประวัติศาสตร์เรื่องยิ่งใหญ่เล่มนี้ หลังการบุกกรุงมอสโควในฤดูใบไม้ร่วง ประชาชนรัสเซียพากันทิ้งเมือง และ ปล่อยให้นโปเลียนได้รับชัยชนะที่เกือบว่างเปล่า การรบดำเนินไปโดยฝ่ายรัสเซียพยายามหลีกเลี่ยงการปะทะปล่อยให้ทหารฝรั่งเศสล่วงล้ำเข้ามาพร้อมกับความเบื่อหน่ายท้อถอย ไร้วินัยตลอดทั้งเผชิญกับความอดอยาก และ ความหนาวอันทารุณตัวไม่ติด ในที่สุดกองทัพของฝรั่งเศสถึงหนึ่งในสาม ก็จมหายไปในท่ามกลางหิมะอันหนาวเหน็บจับขึ้วหัวใจ นี่คือหายนะอันเกิดจากสงครามครั้งนี้ “สงครามและสันติภาพ” ได้บรรยายถึงช่วงประวัติศาสตร์อันยืดเยื้ออย่างระทึกใจละเอียดทุกแง่มุม ผลสผสานกับตำนานแห่งมวลชีวิตของผู้คนอย่างมีเอกภาพนับตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปีสุดท้ายของสงครามที่นโปเลียนยาตราทัพไปในรุสเซียอันก่อให้เกิดความยากเข็ญภัยพิบัติไปทั่ว และไม่เพียงแต่เท่านั้น นวนนิยายเรื่องนี้ยังเผยให้เห็นถึงเงื่อนงำของการเปลี่ยนแปลงและความขัดแย้งของสังคมซึ่งถือกันว่าเป็น ‘ปรัชญาชีวิต’ อีกส่วนหนึ่งด้วย “สงครามและสันติภาพ” ได้รวบรวมเอาความบริสุทธิ์ เล่ห์เหลี่ยม ความฉลาด ความโง่ ความพ่ายแพ้อย่างระบมรวดร้าวกับชัยชนะที่ต้องรอคอย ตอลสตอยได้บรรจงถ่ายทอดออกมาอย่างละเมียดละไม จนดูเหมือนกับว่าจะไม่มีนักประพันธ์หรือศิลปินชั้นเยี่ยมยอดผู้ใดที่จะถ่ายทอดออกมาให้เหมือนได้ ทั้งด้านพลังของเรื่อง และอารมณ์ ความสะเทือนใจที่ผู้อ่านจะได้รับ ![]() ![]() ![]() ![]() |
เงื่อนไขอื่นๆ |
ฝังห้วใจข้าไว้ที่วูนเด็ดนี ดี บราวน์ เขียน ไพรัช แสนสวัสดิ์ ถอดความ สำนักพิมพ์ บรรณกิจ พ.ศ. ๒๕๒๓ มี ๗๓๖ หน้า
"ข้าได้ยินมาว่าท่านตั้งใจจะให้เราไปลงหลักปักฐานในเขตสงวนใกล้ๆ กับเทือกเขา ข้าไม่ต้องการจะตั้งถิ่นฐานข้ารักที่จะตระเวนไปทั่วทุ่งหญ้า อย่างนั้นทำให้ข้ารู้สึกว่าเป็นอิสระและมีความสุข ถ้าเราตั้งถิ่นฐานลงเมื่อใดก็จะซูบซีดแล้วก็ตาย ข้าได้วางหอก ธนู และโล่ห์แล้ว แต่กระนั้นก็ยังรู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่กับท่าน ข้าบอกความจริงกับท่านไปแล้ว ไม่ได้ซ่อนความเท็จเกี่ยวกับตัวข้าเลย แต่ก็ยังไม่รู้ว่าพวกคณะกรรมธิการจะว่าอย่างไรกัน พวกเขามีจิตใจบริสุทธิ์เหมือนกับข้าไหม? นานมาแล้วที่แผ่นดินนี้เป็นของบรรพบุรุษของข้า แต่เมื่อข้าไปที่แม่น้ำ ข้าก็เห็นค่ายทหารตั้งอยู่บนฝั่ง ทหารเหล่านั้นตัดไม้ซุงของข้า ฆ่าควายของข้า เมื่อข้าเห็นอย่างนั้นหัวใจของข้าก็แทบระเบิดออกมา ข้าเสียใจเหลือเกิน......คนขาวนี่กลายเป็นเด็กไปแล้วหรือจึงฆ่าควายอย่างไม่เลือกแล้วก็ไม่กินมัน ? คนผิวแดงฆ่าสัตว์ป่าเพื่อเอามาเลี้ยงชีพไม่ให้หิวโหยเท่านั้นเอง" |
Tags |